1. หน่วยที่รับสมัครสอบ
จะรับสมัครสอบจำนวน 4 หน่วย รายละเอียดตามเอกสารแนบท้ายประกาศ (เอกสาร
หมายเลข 1)
จะรับสมัครสอบจำนวน 4 หน่วย รายละเอียดตามเอกสารแนบท้ายประกาศ (เอกสาร
หมายเลข 1)
2. วิธีดำเนินการ
2.1 ก.พ. จะเปิดรับสมัครผู้สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
ประกาศนีย บัตรวิชาชีพเทคนิค อนุปริญญา ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ปริญญาตรี ปริญญาโทหรือเทียบได้ในระดับเดียวกันสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง ที่ ก.พ. รับรอง ทางอินเทอร์เน็ต ตัง้ แต่วันที่ 15 พฤษภาคม – 4 มิถุนายน 2552 และจะดำเนินการสอบภาคความรู้ความสามารถทัว่ ไป (ภาค ก.) เพื่อขึ้นทะเบียนผู้ผ่านภาค ก. ไว้ เมื่อส่วนราชการใดประสงค์จะบรรจุบุคคลเข้ารับราชการในตำแหน่งใด จากผู้สำเร็จการศึกษาวุฒิใด สาขาวิชาใดหรือทางใด ส่วนราชการนั้นจะรับสมัครจากผู้ที่ขึ้นทะเบียน
ผู้สอบผ่านภาค ก. ของ ก.พ. และดำเนินการสอบภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (ภาค ข.) และภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค.) แล้วขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้เพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการในตำแหน่งนั้นต่อไป
2.2 การดำเนินการสอบ จะจัดสอบ ณ ศูนย์สอบกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดย
1) กำหนดวันสอบตามระดับการศึกษาของผู้สมัครสอบ หรือตามที่ ก.พ.เห็นสมควร
2) ผู้สมัครสอบในระดับการศึกษาเดียวกันที่ชำระค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ
ก่อนจะมีสิทธิเข้าสอบก่อน
2.1 ก.พ. จะเปิดรับสมัครผู้สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
ประกาศนีย บัตรวิชาชีพเทคนิค อนุปริญญา ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ปริญญาตรี ปริญญาโทหรือเทียบได้ในระดับเดียวกันสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง ที่ ก.พ. รับรอง ทางอินเทอร์เน็ต ตัง้ แต่วันที่ 15 พฤษภาคม – 4 มิถุนายน 2552 และจะดำเนินการสอบภาคความรู้ความสามารถทัว่ ไป (ภาค ก.) เพื่อขึ้นทะเบียนผู้ผ่านภาค ก. ไว้ เมื่อส่วนราชการใดประสงค์จะบรรจุบุคคลเข้ารับราชการในตำแหน่งใด จากผู้สำเร็จการศึกษาวุฒิใด สาขาวิชาใดหรือทางใด ส่วนราชการนั้นจะรับสมัครจากผู้ที่ขึ้นทะเบียน
ผู้สอบผ่านภาค ก. ของ ก.พ. และดำเนินการสอบภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (ภาค ข.) และภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค.) แล้วขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้เพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการในตำแหน่งนั้นต่อไป
2.2 การดำเนินการสอบ จะจัดสอบ ณ ศูนย์สอบกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดย
1) กำหนดวันสอบตามระดับการศึกษาของผู้สมัครสอบ หรือตามที่ ก.พ.เห็นสมควร
2) ผู้สมัครสอบในระดับการศึกษาเดียวกันที่ชำระค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ
ก่อนจะมีสิทธิเข้าสอบก่อน
3. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครสอบ
3.1 ผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัติทัว่ ไปและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 36
แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ดังต่อไปนี้
ก. คุณสมบัติทัว่ ไป
(1) มีสัญชาติไทย
(2) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปี
(3) เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้วยความบริสุทธิใ จ
ข. ลักษณะต้องห้าม
(1) เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
(2) เป็นคนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ คนวิกลจริต
หรือจิตฟนั่ เฟือน ไม่สมประกอบ หรือเป็นโรคตามที่กำหนดในกฎ ก.พ.
(3) เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสัง่ พักราชการหรือถูกสัง่ ให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามพระราชบัญญัตินี้หรือตามกฎหมายอื่น
(4) เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีจนเป็นที่รังเกียจของสังคม
(5) เป็นกรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งที่รับผิดชอบในการบริหารพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
(6) เป็นบุคคลล้มละลาย
(7) เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก.พ.าะกระทำความผิดทางอาญา เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(8) เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
(9) เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก หรือปลดออก เพราะกระทำผิดวินัยตามพระราชบัญญัตินี้ หรือตามกฎหมายอื่น
(10) เป็นผู้เคยถูกลงโทษไล่ออก.พ.าะกระทำผิดวินัยตามพระราชบัญญัตินี้ หรือตามกฎหมายอื่น
(11) เป็นผู้เคยกระทำการทุจริตในการสอบเข้ารับราชการ หรือเข้าปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ
ผู้ที่จะเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนซึ่งมีลักษณะต้องห้ามตาม ข.
(4) (6) (7) (8) (9) (10) หรือ (11) ก.พ. อาจพิจารณายกเว้นให้เข้ารับราชการได้ แต่ถ้าเป็นกรณีมีลักษณะต้องห้ามตาม (8) หรือ (9) ผู้นั้นต้องออกจากงานหรือออกจากราชการไปเกินสองปีแล้ว และในกรณีมีลักษณะต้องห้ามตาม (10) ผู้นั้นต้องออกจากงานหรือออกจากราชการไปเกินสามปีแล้ว และต้องมิใช่เป็นกรณีออกจากงานหรือออกจากราชการเพราะทุจริตต่อหน้าที่สำหรับพระภิกษุหรือสามเณรทางราชการไม่รับสมัครสอบและไม่อาจให้เข้าสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ ทั้งนี้ ตามหนังสือกรมสารบรรณคณะรัฐมนตรีฝ่ายบริหารที่ นว 89/2501 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2501 และตามความในข้อ 5 ของคำสัง่ มหาเถรสมาคม ลงวันที่ 17
มีนาคม 2538
3.1 ผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัติทัว่ ไปและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 36
แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ดังต่อไปนี้
ก. คุณสมบัติทัว่ ไป
(1) มีสัญชาติไทย
(2) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปี
(3) เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขด้วยความบริสุทธิใ จ
ข. ลักษณะต้องห้าม
(1) เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
(2) เป็นคนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ คนวิกลจริต
หรือจิตฟนั่ เฟือน ไม่สมประกอบ หรือเป็นโรคตามที่กำหนดในกฎ ก.พ.
(3) เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสัง่ พักราชการหรือถูกสัง่ ให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามพระราชบัญญัตินี้หรือตามกฎหมายอื่น
(4) เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีจนเป็นที่รังเกียจของสังคม
(5) เป็นกรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งที่รับผิดชอบในการบริหารพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
(6) เป็นบุคคลล้มละลาย
(7) เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก.พ.าะกระทำความผิดทางอาญา เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(8) เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
(9) เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก หรือปลดออก เพราะกระทำผิดวินัยตามพระราชบัญญัตินี้ หรือตามกฎหมายอื่น
(10) เป็นผู้เคยถูกลงโทษไล่ออก.พ.าะกระทำผิดวินัยตามพระราชบัญญัตินี้ หรือตามกฎหมายอื่น
(11) เป็นผู้เคยกระทำการทุจริตในการสอบเข้ารับราชการ หรือเข้าปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ
ผู้ที่จะเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนซึ่งมีลักษณะต้องห้ามตาม ข.
(4) (6) (7) (8) (9) (10) หรือ (11) ก.พ. อาจพิจารณายกเว้นให้เข้ารับราชการได้ แต่ถ้าเป็นกรณีมีลักษณะต้องห้ามตาม (8) หรือ (9) ผู้นั้นต้องออกจากงานหรือออกจากราชการไปเกินสองปีแล้ว และในกรณีมีลักษณะต้องห้ามตาม (10) ผู้นั้นต้องออกจากงานหรือออกจากราชการไปเกินสามปีแล้ว และต้องมิใช่เป็นกรณีออกจากงานหรือออกจากราชการเพราะทุจริตต่อหน้าที่สำหรับพระภิกษุหรือสามเณรทางราชการไม่รับสมัครสอบและไม่อาจให้เข้าสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ ทั้งนี้ ตามหนังสือกรมสารบรรณคณะรัฐมนตรีฝ่ายบริหารที่ นว 89/2501 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2501 และตามความในข้อ 5 ของคำสัง่ มหาเถรสมาคม ลงวันที่ 17
มีนาคม 2538
3.2 ผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับผู้สมัครสอบตามที่ระบุไว้ในรายละเอียดแนบท้ายประกาศนี้ (เอกสารหมายเลข 1)
4. การรับสมัครสอบ
4.1 ผู้ประสงค์จะสมัครสอบ สมัครได้ทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม
– 4 มิถุนายน 2552 ตลอด 24 ชัว่ โมง ไม่เว้นวันหยุดราชการตามขัน้ ตอนดังนี้
(1) เปิดเว็บไซต์ http://job3.ocsc.go.th หัวข้อ “รับสมัครสอบภาค ก.
ของ ก.พ. ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552”
(2) กรอกข้อความให้ถูกต้องและครบถ้วน ปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนด
ระบบจะกำหนดแบบฟอร์มการชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์ บมจ. ธนาคารกรุงไทย ให้โดยอัตโนมัติ
(3) พิมพ์แบบฟอร์มการชำระเงินลงในกระดาษขนาด A4 จำนวน 1 แผ่น
หรือ หากไม่มีเครื่องพิมพ์ในขณะนั้น ให้บันทึกข้อมูลเก็บไว้ในรูปแบบ File ลงในสื่อบันทึกข้อมูล เช่น Diskette เป็นต้น ในกรณีที่ไม่สามารถพิมพ์แบบฟอร์มการชำระเงินหรือบันทึกข้อมูลได้ ผู้สมัคร สามารถเข้าไปพิมพ์แบบฟอร์มการชำระเงิน หรือบันทึกข้อมูลลงในสื่อบันทึกข้อมูลใหม่ได้อีก แต่จะไม่สามารถแก้ไขข้อมูลในการกรอกใบสมัครในครัง้ แรกที่สมบูรณ์แล้วได้
4.2 นำแบบฟอร์มการชำระเงินไปชำระเงินเฉพาะที่เคาน์เตอร์ บจม.ธนาคาร
กรุงไทย ทุกสาขาทัว่ ประเทศ ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม – 5 มิถุนายน 2552 ภายในเวลาทำการของ
ธนาคาร การรับสมัครสอบจะมีผลสมบูรณ์ เมื่อชำระค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบเรียบร้อยแล้ว
4.3 ค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ จำนวน 130 บาท ซึ่งประกอบด้วย
(1) ค่าธรรมเนียมสอบ จำนวน 100 บาท
(2) ค่าธรรมเนียมธนาคารรวมค่าบริการทางอินเทอร์เน็ต จำนวน 30 บาท
ค่าธรรมเนียมจะไม่จ่ายคืนให้ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
4.4 ผู้สมัครที่ชำระค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบแล้ว หลังจากปิ ดรับสมัครสอบ
ก.พ. จะกำหนดเลขประจำตัวสอบให้ ตามลำดับของการชำระค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ
4.5 ผู้สมัครที่ชำระค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบแล้วสามารถเข้าไปตรวจสอบ
เลขประจำตัวสอบ ได้ตัง้ แต่วันที่ 24 มิถุนายน 2552 เป็นต้นไปโดยเข้าไปที่เว็บไซต์ http://job3.ocsc.go.th
หัวข้อ “รับสมัครสอบภาค ก. ของ ก.พ. ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 หัวข้อย่อยตรวจสอบเลขประจำตัวสอบ” เมื่อได้รับเลขประจำตัวสอบแล้ว ให้พิมพ์ใบสมัครลงในกระดาษ A4
4.1 ผู้ประสงค์จะสมัครสอบ สมัครได้ทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม
– 4 มิถุนายน 2552 ตลอด 24 ชัว่ โมง ไม่เว้นวันหยุดราชการตามขัน้ ตอนดังนี้
(1) เปิดเว็บไซต์ http://job3.ocsc.go.th หัวข้อ “รับสมัครสอบภาค ก.
ของ ก.พ. ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552”
(2) กรอกข้อความให้ถูกต้องและครบถ้วน ปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนด
ระบบจะกำหนดแบบฟอร์มการชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์ บมจ. ธนาคารกรุงไทย ให้โดยอัตโนมัติ
(3) พิมพ์แบบฟอร์มการชำระเงินลงในกระดาษขนาด A4 จำนวน 1 แผ่น
หรือ หากไม่มีเครื่องพิมพ์ในขณะนั้น ให้บันทึกข้อมูลเก็บไว้ในรูปแบบ File ลงในสื่อบันทึกข้อมูล เช่น Diskette เป็นต้น ในกรณีที่ไม่สามารถพิมพ์แบบฟอร์มการชำระเงินหรือบันทึกข้อมูลได้ ผู้สมัคร สามารถเข้าไปพิมพ์แบบฟอร์มการชำระเงิน หรือบันทึกข้อมูลลงในสื่อบันทึกข้อมูลใหม่ได้อีก แต่จะไม่สามารถแก้ไขข้อมูลในการกรอกใบสมัครในครัง้ แรกที่สมบูรณ์แล้วได้
4.2 นำแบบฟอร์มการชำระเงินไปชำระเงินเฉพาะที่เคาน์เตอร์ บจม.ธนาคาร
กรุงไทย ทุกสาขาทัว่ ประเทศ ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม – 5 มิถุนายน 2552 ภายในเวลาทำการของ
ธนาคาร การรับสมัครสอบจะมีผลสมบูรณ์ เมื่อชำระค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบเรียบร้อยแล้ว
4.3 ค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ จำนวน 130 บาท ซึ่งประกอบด้วย
(1) ค่าธรรมเนียมสอบ จำนวน 100 บาท
(2) ค่าธรรมเนียมธนาคารรวมค่าบริการทางอินเทอร์เน็ต จำนวน 30 บาท
ค่าธรรมเนียมจะไม่จ่ายคืนให้ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
4.4 ผู้สมัครที่ชำระค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบแล้ว หลังจากปิ ดรับสมัครสอบ
ก.พ. จะกำหนดเลขประจำตัวสอบให้ ตามลำดับของการชำระค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ
4.5 ผู้สมัครที่ชำระค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบแล้วสามารถเข้าไปตรวจสอบ
เลขประจำตัวสอบ ได้ตัง้ แต่วันที่ 24 มิถุนายน 2552 เป็นต้นไปโดยเข้าไปที่เว็บไซต์ http://job3.ocsc.go.th
หัวข้อ “รับสมัครสอบภาค ก. ของ ก.พ. ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 หัวข้อย่อยตรวจสอบเลขประจำตัวสอบ” เมื่อได้รับเลขประจำตัวสอบแล้ว ให้พิมพ์ใบสมัครลงในกระดาษ A4
สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับเลขประจำตัวสอบ ให้นำหลักฐานการชำระเงิน ติดต่อศูนย์สรรหาและเลือกสรร สำนักงาน ก.พ.
47/101 ถนนติวานนท์ ซอย 4 ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี ภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2552
4.6 สำหรับผู้ที่มีหนังสือรับรองผลการสอบผ่านภาค ก. หรือ ภาค ก.และภาค ข.
(ระดับปริญญาโท) ของ ก.พ. แล้ว ไม่ต้องสมัครสอบในครัง้ นี้อีก
4.7 ผู้ที่มีความบกพร่อง (ตามกฎกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2537))
ทางการมองเห็น ทางการได้ยินหรือการสื่อความหมาย ทางร่างกายหรือการเคลื่อนไหว สำนักงาน ก.พ.
จะพยายามจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกให้ในวันสอบ ตามที่แจ้งไว้ในใบสมัคร
47/101 ถนนติวานนท์ ซอย 4 ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี ภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2552
4.6 สำหรับผู้ที่มีหนังสือรับรองผลการสอบผ่านภาค ก. หรือ ภาค ก.และภาค ข.
(ระดับปริญญาโท) ของ ก.พ. แล้ว ไม่ต้องสมัครสอบในครัง้ นี้อีก
4.7 ผู้ที่มีความบกพร่อง (ตามกฎกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2537))
ทางการมองเห็น ทางการได้ยินหรือการสื่อความหมาย ทางร่างกายหรือการเคลื่อนไหว สำนักงาน ก.พ.
จะพยายามจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกให้ในวันสอบ ตามที่แจ้งไว้ในใบสมัคร
5. เงื่อนไขการสมัครสอบ
5.1 ผู้สมัครสอบสมัครได้เพียงครัง้ เดียวเท่านั้น
5.2 ผู้สมัครเลือกสมัครสอบได้เพียง 1 หน่วย เมื่อเลือกแล้วจะเปลี่ยนแปลง
แก้ไขไม่ได้
5.3 ผู้สมัครสอบจะต้องเป็นผู้มีวุฒิการศึกษาตรงตามคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ
สมัคร สอบในข้อ 3.2 โดยต้องเป็นผู้สำเร็จการศึกษาและได้รับการอนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติ ภายในวันสุดท้ายของการรับสมัครสอบ คือ วันที่ 4 มิถุนายน 2552 ทัง้ นี้ การสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรขัน้ ประกาศนียบัตร อนุปริญญาหรือปริญญาของสถานศึกษาใด จะถือตามกฎหมาย กฎหรือระเบียบเกี่ยวกับการสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรขัน้ ประกาศนียบัตร อนุปริญญา หรือปริญญาของสถานศึกษานั้นเป็นเกณฑ์
5.4 การสมัครสอบตามขัน้ ตอนข้างต้น ถือว่าผู้สมัครสอบเป็นผู้ลงลายมือชื่อ และ
รับรอง ความถูกต้องของข้อมูลดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 ดังนั้น หากผู้สมัครสอบจงใจกรอกข้อมูลอันเป็นเท็จ อาจมีความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137
5.5 ผู้สมัครสอบต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบและรับรองตนเองว่า เป็นผู้มี
คุณสมบัติ ตรงตามประกาศรับสมัครสอบ และต้องกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ให้ถูกต้องครบถ้วนตรงตามความเป็นจริง ในกรณีที่มีความผิดพลาดอันเกิดจากผู้สมัครสอบ หรือตรวจพบว่าเอกสารหลักฐานคุณวุฒิ ซึ่งผู้สมัครสอบนำมายื่นไม่ตรงหรือไม่เป็นไปตามประกาศรับสมัครสอบ สำนักงาน ก.พ. จะถือว่าผู้สมัครสอบเป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการสมัครสอบครัง้ นี้มาตัง้ แต่ต้น และจะไม่คืนค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ
5.1 ผู้สมัครสอบสมัครได้เพียงครัง้ เดียวเท่านั้น
5.2 ผู้สมัครเลือกสมัครสอบได้เพียง 1 หน่วย เมื่อเลือกแล้วจะเปลี่ยนแปลง
แก้ไขไม่ได้
5.3 ผู้สมัครสอบจะต้องเป็นผู้มีวุฒิการศึกษาตรงตามคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ
สมัคร สอบในข้อ 3.2 โดยต้องเป็นผู้สำเร็จการศึกษาและได้รับการอนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติ ภายในวันสุดท้ายของการรับสมัครสอบ คือ วันที่ 4 มิถุนายน 2552 ทัง้ นี้ การสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรขัน้ ประกาศนียบัตร อนุปริญญาหรือปริญญาของสถานศึกษาใด จะถือตามกฎหมาย กฎหรือระเบียบเกี่ยวกับการสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรขัน้ ประกาศนียบัตร อนุปริญญา หรือปริญญาของสถานศึกษานั้นเป็นเกณฑ์
5.4 การสมัครสอบตามขัน้ ตอนข้างต้น ถือว่าผู้สมัครสอบเป็นผู้ลงลายมือชื่อ และ
รับรอง ความถูกต้องของข้อมูลดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 ดังนั้น หากผู้สมัครสอบจงใจกรอกข้อมูลอันเป็นเท็จ อาจมีความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137
5.5 ผู้สมัครสอบต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบและรับรองตนเองว่า เป็นผู้มี
คุณสมบัติ ตรงตามประกาศรับสมัครสอบ และต้องกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ให้ถูกต้องครบถ้วนตรงตามความเป็นจริง ในกรณีที่มีความผิดพลาดอันเกิดจากผู้สมัครสอบ หรือตรวจพบว่าเอกสารหลักฐานคุณวุฒิ ซึ่งผู้สมัครสอบนำมายื่นไม่ตรงหรือไม่เป็นไปตามประกาศรับสมัครสอบ สำนักงาน ก.พ. จะถือว่าผู้สมัครสอบเป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการสมัครสอบครัง้ นี้มาตัง้ แต่ต้น และจะไม่คืนค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ
6. การประกาศรายชื่อผู้สมัครสอบ วัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบเกี่ยวกับ
การสอบ
สำนักงาน ก.พ. จะประกาศรายชื่อผู้สมัครสอบ วัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบ เกี่ยวกับการสอบในวันที่ 2 กรกฎาคม 2552 ทางเว็บไซต์ http://job3.ocsc.go.th หัวข้อ
“การประกาศรายชื่อ ผู้สมัครสอบ วัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบเกี่ยวกับการสอบ”
การสอบ
สำนักงาน ก.พ. จะประกาศรายชื่อผู้สมัครสอบ วัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบ เกี่ยวกับการสอบในวันที่ 2 กรกฎาคม 2552 ทางเว็บไซต์ http://job3.ocsc.go.th หัวข้อ
“การประกาศรายชื่อ ผู้สมัครสอบ วัน เวลา สถานที่สอบ และระเบียบเกี่ยวกับการสอบ”
7. หลักสูตรและวิธีการสอบ
ภาคความรู้ความสามารถทัว่ ไป (ภาค ก.) (คะแนนเต็ม 200 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถ ดังต่อไปนี้ โดยวิธีการสอบข้อเขียน
1. วิชาความสามารถทัว่ ไป (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
(1) ความสามารถทางด้านการคิดคำนวณ
ทดสอบความสามารถในการประยุกต์ใช้ความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์
เบื้องต้น การวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของจำนวนหรือปริมาณ การแก้ปญั หาเชิงปริมาณ และข้อมูลต่างๆ
(2) ความสามารถด้านเหตุผล
ทดสอบความสามารถในการคิดหาความสัมพันธ์เชื่อมโยงของคำ ข้อความ หรือ
รูปภาพ การหาข้อยุติ หรือข้อสรุปอย่างสมเหตุสมผลจากข้อความ สัญญลักษณ์ สถานการณ์หรือ
แบบจำลองต่างๆ
2. วิชาภาษาไทย (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
(1) ความเข้าใจภาษา
ทดสอบความสามารถในการอ่านและการทำความเข้าใจกับบทความ หรือข้อความ
ที่กำหนดให้แล้วตอบคำถามที่ตามมาในแต่ละบทความ หรือข้อความ ทั้งนี้ รวมไปถึงการสรุปความ และ
ตีความด้วย
(2) การใช้ภาษา
ทดสอบความสามารถในการเลือกใช้คำหรือกลุ่มคำ การเขียนประโยคได้ถูกต้อง
ตามหลักภาษาและการเรียงข้อความ
ภาคความรู้ความสามารถทัว่ ไป (ภาค ก.) (คะแนนเต็ม 200 คะแนน)
ทดสอบความรู้ความสามารถ ดังต่อไปนี้ โดยวิธีการสอบข้อเขียน
1. วิชาความสามารถทัว่ ไป (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
(1) ความสามารถทางด้านการคิดคำนวณ
ทดสอบความสามารถในการประยุกต์ใช้ความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์
เบื้องต้น การวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของจำนวนหรือปริมาณ การแก้ปญั หาเชิงปริมาณ และข้อมูลต่างๆ
(2) ความสามารถด้านเหตุผล
ทดสอบความสามารถในการคิดหาความสัมพันธ์เชื่อมโยงของคำ ข้อความ หรือ
รูปภาพ การหาข้อยุติ หรือข้อสรุปอย่างสมเหตุสมผลจากข้อความ สัญญลักษณ์ สถานการณ์หรือ
แบบจำลองต่างๆ
2. วิชาภาษาไทย (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)
(1) ความเข้าใจภาษา
ทดสอบความสามารถในการอ่านและการทำความเข้าใจกับบทความ หรือข้อความ
ที่กำหนดให้แล้วตอบคำถามที่ตามมาในแต่ละบทความ หรือข้อความ ทั้งนี้ รวมไปถึงการสรุปความ และ
ตีความด้วย
(2) การใช้ภาษา
ทดสอบความสามารถในการเลือกใช้คำหรือกลุ่มคำ การเขียนประโยคได้ถูกต้อง
ตามหลักภาษาและการเรียงข้อความ
8. เกณฑ์การตัดสินในการขึ้นทะเบียนผู้สอบผ่านภาค ก. ของ ก.พ.
ผู้ที่ถือว่าเป็นผู้สอบผ่านภาค ก. และได้ขึ้นทะเบียนผู้สอบผ่านภาค ก. ของ ก.พ.
จะต้องเป็นผู้สอบได้คะแนนรวมทัง้ 2 วิชา ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60
ผู้ที่ถือว่าเป็นผู้สอบผ่านภาค ก. และได้ขึ้นทะเบียนผู้สอบผ่านภาค ก. ของ ก.พ.
จะต้องเป็นผู้สอบได้คะแนนรวมทัง้ 2 วิชา ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60
9. การประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านภาค ก.
สำนักงาน ก.พ. จะประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านภาค ก. ทางเว็บไซต์
http://job3.ocsc.go.th หัวข้อ “การประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านภาค ก.” สำหรับรายละเอียด
จะแจ้งให้ทราบในวันสอบแต่ละครัง้
สำนักงาน ก.พ. จะประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านภาค ก. ทางเว็บไซต์
http://job3.ocsc.go.th หัวข้อ “การประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านภาค ก.” สำหรับรายละเอียด
จะแจ้งให้ทราบในวันสอบแต่ละครัง้
10. หลักฐานที่ต้องส่งไปให้สำนักงาน ก.พ.
ผู้ที่มีรายชื่อเป็นผู้สอบผ่านภาคความรู้ความสามารถทัว่ ไป (ภาค ก.) จะต้องส่ง
เอกสารไปให้สำนักงาน ก.พ.ดังนี้
1) ใบสมัครที่พิมพ์จากอินเทอร์เน็ต ให้ติดรูปถ่ายหน้าตรง ไม่สวมหมวก และ
ไม่สวมแว่นตาดำ ถ่ายไม่เกิน 1 ปี ขนาด 1 x 1.5 นิ้ว ลงลายมือชื่อในใบสมัครให้ครบถ้วน
2) สำเนาประกาศนียบัตร สำเนาอนุปริญญาบัตร สำเนาปริญญาบัตร หรือ
สำเนาหนังสือรับรองฉบับสภามหาวิทยาลัยอนุมัติ หรือสำเนาระเบียนแสดงผลการศึกษา (Transcript of
Records) อย่างใดอย่างหนึ่งที่แสดงว่าเป็นผู้มีคุณวุฒิการศึกษาตรงตามประกาศรับสมัคร โดยต้องสำเร็จ
การศึกษาและได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติภายในวันสุดท้ายของการรับสมัคร จำนวน 1 ฉบับ
3) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ฉบับ
4) หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ใบสำคัญการสมรส ในกรณีที่หลักฐาน
ข้อ 1-3 ไม่ตรงกัน จำนวน 1 ฉบับ
5) ซองจดหมายขนาด 11 x 22 เซนติเมตร ติดแสตมป์ 3 บาท ไม่ปิดผนึกซอง
จ่าหน้าซองถึงตนเอง ระบุเลขประจำตัวสอบให้ถูกต้องที่มุมล่างด้านขวาของซอง
สำเนาเอกสารทุกฉบับให้ผู้สมัครเขียนคำรับรองว่า “สำเนาถูกต้อง” ลงชื่อ
ลงวันที่ และระบุเลขประจำตัวสอบกำกับไว้มุมบนด้านขวาทุกหน้าของสำเนาเอกสาร
เอกสารในข้อ 1) - 5) ให้ใส่ซองขนาด A4 ส่งให้สำนักงาน ก.พ.ทาง
ไปรษณีย์ลงทะเบียน โดยระบุหน้าซอง “กลุ่มงานรับรองคุณวุฒิ ศูนย์สรรหาและเลือกสรรสำนักงาน ก.พ. 47/101 ซอยติวานนท์ 4 ถนนติวานนท์ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี รหัสไปรษณีย์ 11000” สำหรับรายละเอียดจะแจ้งให้ทราบในวันประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านภาค ก. แต่ละครัง้
ผู้ที่มีรายชื่อเป็นผู้สอบผ่านภาคความรู้ความสามารถทัว่ ไป (ภาค ก.) จะต้องส่ง
เอกสารไปให้สำนักงาน ก.พ.ดังนี้
1) ใบสมัครที่พิมพ์จากอินเทอร์เน็ต ให้ติดรูปถ่ายหน้าตรง ไม่สวมหมวก และ
ไม่สวมแว่นตาดำ ถ่ายไม่เกิน 1 ปี ขนาด 1 x 1.5 นิ้ว ลงลายมือชื่อในใบสมัครให้ครบถ้วน
2) สำเนาประกาศนียบัตร สำเนาอนุปริญญาบัตร สำเนาปริญญาบัตร หรือ
สำเนาหนังสือรับรองฉบับสภามหาวิทยาลัยอนุมัติ หรือสำเนาระเบียนแสดงผลการศึกษา (Transcript of
Records) อย่างใดอย่างหนึ่งที่แสดงว่าเป็นผู้มีคุณวุฒิการศึกษาตรงตามประกาศรับสมัคร โดยต้องสำเร็จ
การศึกษาและได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติภายในวันสุดท้ายของการรับสมัคร จำนวน 1 ฉบับ
3) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ฉบับ
4) หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล ใบสำคัญการสมรส ในกรณีที่หลักฐาน
ข้อ 1-3 ไม่ตรงกัน จำนวน 1 ฉบับ
5) ซองจดหมายขนาด 11 x 22 เซนติเมตร ติดแสตมป์ 3 บาท ไม่ปิดผนึกซอง
จ่าหน้าซองถึงตนเอง ระบุเลขประจำตัวสอบให้ถูกต้องที่มุมล่างด้านขวาของซอง
สำเนาเอกสารทุกฉบับให้ผู้สมัครเขียนคำรับรองว่า “สำเนาถูกต้อง” ลงชื่อ
ลงวันที่ และระบุเลขประจำตัวสอบกำกับไว้มุมบนด้านขวาทุกหน้าของสำเนาเอกสาร
เอกสารในข้อ 1) - 5) ให้ใส่ซองขนาด A4 ส่งให้สำนักงาน ก.พ.ทาง
ไปรษณีย์ลงทะเบียน โดยระบุหน้าซอง “กลุ่มงานรับรองคุณวุฒิ ศูนย์สรรหาและเลือกสรรสำนักงาน ก.พ. 47/101 ซอยติวานนท์ 4 ถนนติวานนท์ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี รหัสไปรษณีย์ 11000” สำหรับรายละเอียดจะแจ้งให้ทราบในวันประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านภาค ก. แต่ละครัง้
11. การประกาศขึ้นทะเบียนผู้สอบผ่านภาค ก.
สำนักงาน ก.พ. จะประกาศขึ้นทะเบียนผู้สอบผ่านภาค ก. ทางเว็บไซต์
http://job3.ocsc.go.th หัวข้อ “การประกาศขึ้นทะเบียนผู้สอบผ่านภาค ก.” สำหรับรายละเอียด
จะแจ้งให้ทราบในวันประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านภาค ก. แต่ละครัง้
ผู้สอบผ่านภาคความรู้ความสามารถทัว่ ไป (ภาค ก.) ในการสอบครัง้ นี้ สำนักงาน
ก.พ. จะขึ้นทะเบียนผู้สอบผ่านภาค ก. เฉพาะผู้ที่มีคุณสมบัติตรงตามประกาศรับสมัครสอบเท่านั้น และจะส่งหนังสือรับรองผลการสอบผ่านภาค ก. ไปให้ผู้ที่สอบผ่านทางไปรษณีย์ เพื่อจะได้นำไปใช้ในการสมัครสอบแข่งขันฯ ในตำแหน่งต่าง ๆ ของส่วนราชการต่าง ๆ ต่อไป
สำนักงาน ก.พ. จะประกาศขึ้นทะเบียนผู้สอบผ่านภาค ก. ทางเว็บไซต์
http://job3.ocsc.go.th หัวข้อ “การประกาศขึ้นทะเบียนผู้สอบผ่านภาค ก.” สำหรับรายละเอียด
จะแจ้งให้ทราบในวันประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านภาค ก. แต่ละครัง้
ผู้สอบผ่านภาคความรู้ความสามารถทัว่ ไป (ภาค ก.) ในการสอบครัง้ นี้ สำนักงาน
ก.พ. จะขึ้นทะเบียนผู้สอบผ่านภาค ก. เฉพาะผู้ที่มีคุณสมบัติตรงตามประกาศรับสมัครสอบเท่านั้น และจะส่งหนังสือรับรองผลการสอบผ่านภาค ก. ไปให้ผู้ที่สอบผ่านทางไปรษณีย์ เพื่อจะได้นำไปใช้ในการสมัครสอบแข่งขันฯ ในตำแหน่งต่าง ๆ ของส่วนราชการต่าง ๆ ต่อไป
12. การนำผลการสอบผ่านภาค ก. ไปใช้
12.1 ผลการสอบผ่านภาค ก. สามารถใช้ได้ตลอดไป เว้นแต่ ก.พ. จะกำหนดเป็น
อย่างอื่น
12.2 เมื่อส่วนราชการใดประกาศรับสมัครสอบแข่งขันฯ โดยกำหนดว่าคุณสมบัติ
ของผู้มีสิทธิสมัครสอบจะต้องเป็นผู้ที่สอบผ่านภาค ก. ของ ก.พ. ก็ให้ผู้ที่สอบผ่านภาค ก. ซึ่งมีคุณวุฒิตรง
ตามประกาศรับสมัครไปสมัครสอบได้ที่ส่วนราชการนั้น โดยต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนและหนังสือรับรองผลการสอบผ่านภาค ก. ของ ก.พ. (ฉบับจริง) พร้อมสำเนา ไปแสดงด้วย และส่วนราชการผู้ ดำเนินการสอบแข่งขันฯ จะกำหนดให้สอบเฉพาะภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (ภาค ข.) และภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค.) และจะใช้คะแนนรวมของภาค ข. และภาค ค. ที่ผ่านเกณฑ์
ในแต่ละภาคไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ในการเรียงลำดับที่ เพื่อประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ในตำแหน่งของส่วนราชการนั้น ต่อไป
12.1 ผลการสอบผ่านภาค ก. สามารถใช้ได้ตลอดไป เว้นแต่ ก.พ. จะกำหนดเป็น
อย่างอื่น
12.2 เมื่อส่วนราชการใดประกาศรับสมัครสอบแข่งขันฯ โดยกำหนดว่าคุณสมบัติ
ของผู้มีสิทธิสมัครสอบจะต้องเป็นผู้ที่สอบผ่านภาค ก. ของ ก.พ. ก็ให้ผู้ที่สอบผ่านภาค ก. ซึ่งมีคุณวุฒิตรง
ตามประกาศรับสมัครไปสมัครสอบได้ที่ส่วนราชการนั้น โดยต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนและหนังสือรับรองผลการสอบผ่านภาค ก. ของ ก.พ. (ฉบับจริง) พร้อมสำเนา ไปแสดงด้วย และส่วนราชการผู้ ดำเนินการสอบแข่งขันฯ จะกำหนดให้สอบเฉพาะภาคความรู้ความสามารถที่ใช้เฉพาะตำแหน่ง (ภาค ข.) และภาคความเหมาะสมกับตำแหน่ง (ภาค ค.) และจะใช้คะแนนรวมของภาค ข. และภาค ค. ที่ผ่านเกณฑ์
ในแต่ละภาคไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ในการเรียงลำดับที่ เพื่อประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ในตำแหน่งของส่วนราชการนั้น ต่อไป
เอกสารหมายเลข 1
รายละเอียดเกี่ยวกับการสอบแข่งขันฯโดย ก.พ. เป็นผู้ดำเนินการสอบ
ภาคความรู้ความสามารถทัว่ ไป (ภาค ก.) ประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2552
รายละเอียดเกี่ยวกับการสอบแข่งขันฯโดย ก.พ. เป็นผู้ดำเนินการสอบ
ภาคความรู้ความสามารถทัว่ ไป (ภาค ก.) ประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2552
หน่วยที่ 1
คุณสมบัติเฉพาะสำหรับผู้สมัครสอบ
เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกัน ในสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง ที่ ก.พ. รับรอง
คุณสมบัติเฉพาะสำหรับผู้สมัครสอบ
เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกัน ในสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง ที่ ก.พ. รับรอง
การกำหนดเลขประจำตัวสอบ
เลขประจำตัวสอบจะประกอบไปด้วยเลข 9 หลักขึ้นต้นด้วย 521_ _ _ _ _ _
เลขประจำตัวสอบจะประกอบไปด้วยเลข 9 หลักขึ้นต้นด้วย 521_ _ _ _ _ _
หน่วยที่ 2
คุณสมบัติเฉพาะสำหรับผู้สมัครสอบ
เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค อนุปริญญา หรือ
ประกาศนียบัตรวิชาชีพชัน้ สูง หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกัน ในสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง ที่ ก.พ. รับรอง
การกำหนดเลขประจำตัวสอบ
เลขประจำตัวสอบจะประกอบไปด้วยเลข 9 หลักขึ้นต้นด้วย 522_ _ _ _ _ _
คุณสมบัติเฉพาะสำหรับผู้สมัครสอบ
เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค อนุปริญญา หรือ
ประกาศนียบัตรวิชาชีพชัน้ สูง หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกัน ในสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง ที่ ก.พ. รับรอง
การกำหนดเลขประจำตัวสอบ
เลขประจำตัวสอบจะประกอบไปด้วยเลข 9 หลักขึ้นต้นด้วย 522_ _ _ _ _ _
หน่วยที่ 3
คุณสมบัติเฉพาะสำหรับผู้สมัครสอบ
เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกันในสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง ที่ ก.พ. รับรอง
การกำหนดเลขประจำตัวสอบ
เลขประจำตัวสอบจะประกอบไปด้วยเลข 9 หลักขึ้นต้นด้วย 523_ _ _ _ _ _
คุณสมบัติเฉพาะสำหรับผู้สมัครสอบ
เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกันในสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง ที่ ก.พ. รับรอง
การกำหนดเลขประจำตัวสอบ
เลขประจำตัวสอบจะประกอบไปด้วยเลข 9 หลักขึ้นต้นด้วย 523_ _ _ _ _ _
หน่วยที่ 4
คุณสมบัติเฉพาะสำหรับผู้สมัครสอบ
เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกันในสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง ที่ ก.พ. รับรอง
การกำหนดเลขประจำตัวสอบ
เลขประจำตัวสอบจะประกอบไปด้วยเลข 9 หลักขึ้นต้นด้วย 524_ _ _ _ _ _
คุณสมบัติเฉพาะสำหรับผู้สมัครสอบ
เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกันในสาขาวิชาใดวิชาหนึ่ง ที่ ก.พ. รับรอง
การกำหนดเลขประจำตัวสอบ
เลขประจำตัวสอบจะประกอบไปด้วยเลข 9 หลักขึ้นต้นด้วย 524_ _ _ _ _ _
เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://job3.ocsc.go.th
ดาวน์โหลดเอกสารใบสมัคร : http://job3.ocsc.go.th/ann/prakrad52.pdf
ดาวน์โหลดเอกสารใบสมัคร : http://job3.ocsc.go.th/ann/prakrad52.pdf
ขอขอบคุณเว็บไซต์ดีๆ http://www.tlcthai.com/webboard
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น